การที่จะพิจารณาว่า
คุณลักษณะใดเป็นค่านิยมหรือไม่นั้น ควรได้พิจารณาตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
1. ค่านิยมนั้นเกิดจากการเลือกอย่างเสรีของบุคคลผู้นั้นหรือไม่
หากมีการบังคับให้เราจำต้องเลือกค่านิยมใด ค่านิยมหนึ่งแล้ว
จะเรียกว่าเป็นค่านิยมที่แท้จริงไม่ได้ เพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่พอกจากภายนอก
ไม่ได้เกิดขึ้นจากความยินยอมพร้อมใจเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นอย่างแท้จริงและสิ่งที่มีลักษณะพอกจากข้างหน้าเช่นนี้
ในระยะเวลาไม่นานนักจะสูญสิ้นไป ไม่ได้คงอยู่เป็นคุณสมบัติประจำตัวของเรา
2. เรามีทางเลือกค่านิยมอื่นอีกหรือไม่(Choice
among alternatives) ถ้ามีค่านิยมให้เราพิจารณาเพียงอย่างเดียว ก็หมายความว่าเราไม่มีทางหรือโอการสที่จะเลือกคุณค่าด้วยการเปรียบเทียบ
หนทางเดียวที่พอจะเรียกว่าเลือกก็คือ การตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับเท่านั้น
เมื่อไม่มีทางเลือก การที่จะพิจารณาถึงข้อดีหรือข้อเสีย
หรือความเหมาะสมหรือไม่ก็หมดไป ดังนั้นค่านิยมที่เราจะยึดถือนั้นจะต้องได้มาจากการเลือกจากค่านิยมหลายอย่างที่มีอยู่
เพื่อจะได้มีโอกาสเปรียบเทียบคุณสมบัติในแง่มุมต่างๆ ได้
3. การเลือกค่านิยมนั้น
กระทำหลังจากที่เราได้พิจารณาถึงข้อดีข้อเสียและผลที่จะตามมาจากการรับนับถือค่านิยมต่างๆ
ที่มีให้เราเลือกหรือไม่ การถูกบังคับให้เลือกหรือเลือกโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบทะลุถ่องแท้แล้วนั้น
จะถือว่าเป็นค่านิยมยังไม่ได้ การเลือกค่านิยมนั้นต้อองไม่กระทำไปด้วยอารมณ์
แต่จะต้องเป็นไปด้วยการใช้สติปัญญา ไตร่ตรองโดยละเอียด
เช่นด้วยการใช้ขบวนการคิดเชิงปรัชญา เป็นต้น
4. เราเทิดทูนและรักษาค่านิยมที่เราเลือกไว้แล้วนั้นอย่างมั่นคงหรือไม่
ถึงแม้ว่าในตอนแรกเราอาจจะไม่สบายใจนักที่จะทำ
แต่เราก็จะพยายามทำด้วยคามสำนึกในคุณค่าและมีความภูมิใจที่จะได้กระทำ เช่น
การตัดสานใจที่เข้าทำการปราบเสี้ยนหนามของแผ่นดิน ถึงแม้ว่าจะต้องเสี่ยงชีวิต
แต่เราก็จะภูมิใจมากกว่าที่จะอยู่อย่างเป็นทาส
5. เราจะยืนหยัดในค่านิยมที่เราได้เลือกไว้แล้วอย่างเด็ดเดี่ยวและเหนี่ยวแน่น
ถ้าเรายังไม่แนะใจในค่านิยมที่เรายึดถือ
เราก็อาจจะละอายต่อการแสดงว่าเราย่อมรับนับถือในค่านิยมนั้นและไม่กล้าที่จะยืนยันถึงความดีแห่งค่านิยมนั้นบุคคลอื่น
โดยเฉพาะที่จะยืนยันต่อการโจมตีจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในค่านิยมนั้น
6. เราสามารถแสดงออกด้วยการกระทำเพื่อชี้ให้เห็นว่าเรายอมรับนับถือในค่านิยมนั้นหรือไม่
เช่น เรายินดีที่จะเสียสละกำลังกาย กำลังทรัพย์หรือเวลา
เพื่อที่จะปฏิบัติตัวให้เป็นไปตามค่านิยมที่เรายกย่องนับถือ
ทั้งนี้เพราะสิ่งที่เราเรียกว่าค่านิยมนั้นจะเป็นสิ่งที่นำทางในการดำเนินชีวิตตามปกติของเรา
หากว่าเราแสดงความนิยมนับถือในค่านิยมชัดๆ
แต่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามค่านิยมนั้นแล้ว เห็นจะเรียกว่าเป็นค่านิยมของเราไม่ได้
7. มีการกระทำซ้ำในสิ่งที่เรายึดถือเป็นค่านิยมหรือไม่
อาจจะมีการกระทำซ้ำๆ จนเป็นกิจประจำวันก็ได้
ค่านิยมเหล่านี้จะแสดงตัวออกในการกระทำต่างๆ ของเขา
ภายใต้ภาวะและเวลาที่แตกต่างกันออกไป
สิ่งที่ปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียวแล้วหายไปนั้น
เราเรียกกว่าค่านิยมไม่ได้ค่านิยมจะต้องมีความคงทน
และเป็นแบบฉบับในการดำเนินชีวิตของเราอย่างน้อยก็ในช่วงเวลานานพอสมควร
แนวคิด
อุดมคติหรือคุณลักษณะใดหากขาดคุณสมบัติทั้ง 7 ประการนี้
ไม่ว่าจะขาดคุณสมบัติใดคุณสมบัติหนึ่ง ย่อมน่าจะสงสัยว่าจะเป็นค่านิยมได้หรือไม่
อย่างไรก็ตามอาจจะมีค่านิยมบางอย่างที่เป็นที่ยอมรับนับถือและถ่ายทอดกันมาเป็นมาดกทางวัฒนธรรม
จนถือได้ว่าเป็นค่านิยมที่มีลักษณะคงตัวเป็นค่านิยมหรือลักษณะนิสัยประจำชาติ
ค่านิยมเหล่านี้เป็นเรื่องที่จะต้องปลูกฝังให้แก่เยาวชนโดยไม่มีข้อยกเว้น
โดยไม่มีทางเลือกและโดยรีบเร่ง
เพื่อให้บังเกิดผลเป็นค่านิยมประจำตัวเยาวชนได้ทันกาล เช่น ค่านิยมเรื่องความรักชาติ
ความเป็นชาตินิยมความนิยมไทย ความสำนึกในหน้าที่
ความกตัญญูกตเวทีและความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น